วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

ปัญหาของพื้นหินอ่อน


ปัญหาของพื้นหินอ่อน
หินอ่อนเมื่อมีระยะเวลาการใช้งานที่นาน มักพบปัญหาหินเปลี่ยนสีหรือมีการหลุดร่อน จึงมีแนวทางการแก้ปัญหาและสาเหตุของปัญหาเหล่านี้ เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไข
ปัญหา
- หินอ่อนที่ปูใหม่มักเดินแล้วพบว่าเกิดการสะดุด สาเหตุนั้นมาจากการปูที่ไม่เรียบ สามารถแก้ไขได้ด้วยการขัดเพื่อปรับระดับหน้าหินให้มีความเรียบและเสมอ หากมีมากให้รื้อถอนออกเพื่อปรับระดับใหม่
- หินอ่อนด้าน ไม่เงางามและมีรอยขีดข่วน สาเหตุเนื่องมาจากการใช้งานมาเป็นเวลานาน หรืออาจเกิดในระหว่างการก่อสร้างที่ไม่ได้รับความระมัดระวังมาก เพราะอาจมีการเดินเหยียบบ่อยๆ สาเ
หตุนี้แก้ไขได้ด้วยการลอกหน้าหินออกด้วยการขัดหน้าหินใหม่ ซึ่งการขัดหน้าหินใหม่นั้นต้องอาศัยเครื่องขัดความเร็วรอบต่ำ ไม่เช่นนั้นจะเกิดรอยเป็นวงหรือเป็นรอยขนแมว
- รอยแตกร้าวหรือเป็นรูที่หินอ่อน สาเหตุเกิดจากการกระแทกหรืออาจมีของเหลวตกใส่ สามารถแก้ไขได้ด้วยการอุดรอยแตกร้าวด้วยโพลีเอศเตอร์เรซิ่นหรือเปลี่ยนแผ่น หินใหม่
- ปูนยาแนวหลุด สาเหตุอาจเกิดมาจากน้ำยาเคมีหรือการกัดเซาะของน้ำ แก้ไขด้วยโพลีเอสเตอร์เรซิ่นหรือปูนยาแนวสีเดิม
- คราบเครื่องดื่ม สาเหตุอาจมาจากชากาแฟหรือน้ำซึม ซึ่งมักพบว่าเกิดกับหินอ่อนมากที่สุด การแก้ไขนั้นทำได้ด้วยการขัดลอกหน้าออกแล้วเคลือบใหม่ หรือป้องกันโดยการหันมาใช้ที่รองแก้วในการดื่มเครื่องดื่ม หากมีการหกเลอะ ควรรีบทำความสะอาดโดยการเช็ดออก เพราะธรรมชาติของหินเป็นรูพรุนจึงทำให้น้ำซึมซับได้เร็วมาก
- สีของหินเปลี่ยนและขุ่นมัว เกิดจากการที่ฝุ่นและคราบฝั่งอยู่ในหินที่เคลือบแว๊กซ์ และแว๊กซ์หลุดล่อนดังนั้นการแก้ไขต้องลอกแว๊กซ์ออก ขัดเงาและลงน้ำยาเคลือบเงาตาม
- สีของหินเปลี่ยน เกิดจากความชื้นซึมขึ้นมาจากด้านล่าง มักพบในบ้านที่เกิดปัญหาน้ำท่วมบ่อยหรือมีปริมาณความชื้นใต้ดินสูง ซึ่งความด่างในปูนจะทำปฏิกิริยากับเนื้อหินทำ
ให้เป็นรอยด่างและเปลี่ยนสีไปในที่สุด การแก้ปัญหานั้นต้องแก้ที่ต้นเหตุ โดยการรื้อออกเปลี่ยนใหม่ และแก้ปัญหาเรื่องความชื้นซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพหน้างานดังนั้นการขัดหน้าหิน อาจไม่ช่วยอะไร เพราะรอยเกิดจากการร้าวที่ด้านหลัง
- หินหลุดล่อน สาเหตุเกิดจากความชื้นหรือการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน การแก้ไขถ้าเป็นงานใหม่ต้องมีการรื้อออก สาเหตุมักมาจากความชื้น การแก้ปัญหาคือ ต้องรื้อออกปรับ
แก้เรื่องความชื้น

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

การ ศึกษาข้อดี และข้อเสีย

การ ศึกษาข้อดี และข้อเสีย เพื่อเปรียบเทียบระหว่างหินแกรนิต กับหินอ่อนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณ สามารถเลือกชนิดหินได้เหมาะสมกับโครงการของคุณ หินอ่อนอาจดูสวยงาม แต่มันก็มีข้อเสียของมัน มีหลายคนที่เลือกใช้หินอ่อน หรือหินแกรนิตในการตกแต่งภายใน หินเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของเรา ด้วยความที่มันมีลวดลายและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ มันจึงถูกใช้ในการตกแต่งบ้านอย่างมากมาย แต่ถึงแม้ว่าหินเหล่านี้จะสวยงามขนาดไหนก็ตาม คุณมีความรู้เกี่ยวกับมันมากพอที่จะจัดวางมันในตำแหน่งที่เหมาะสมในบ้านแล้ว หรือยัง?

คุณทราบข้อแตกต่างระหว่างหินพวกนี้หรือเปล่า? เราจะมาดูความแตกต่างของหินแกรนิตกับหินอ่อนกัน

หินแกรนิต เป็นหินแข็งที่มีความทนทานมาก ส่วนใหญ่ทำมาจากแร่ควอตซ์และไมก้า โดยการหลอมที่ความร้อนสูง สีและลวดลายของหินแกรนิตจะถูกกำหนดโดยความเร็วในการทำให้เย็นและปริมาณของ แร่ควอตซ์และไมก้าที่มีในหินแต่ละชิ้น

ข้อดีและข้อเสียของหินแกรนิต หินแกรนิตถือว่าเป็นหินที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งในการตกแต่งบ้าน เนื่องจากหินแกรนิตทนต่อการขีดข่วน คุณสมบัติอื่นๆ ได้แก่ ไม่เป็นรอยคราบเปื้อน แตก หรือไหม้แค่นี้ก็ทำให้มันเป็นหินที่ใช้กันทั่วไปในบ้านในปัจจุบัน มันมีสีที่สวยงามและช่วยเพิ่มความงามให้กับพื้นที่โดยรอบการใช้หินแกรนิตจะ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัยตราบใดที่คุณทำความสะอาด มันเป็นประจำสำหรับข้อเสียของหินแกรนิตนั้นไม่มีเลย จึงไม่น่าแปลกที่เจ้าของบ้านต่างก็นิยมใช้หินแกรนิต

ข้อดีและข้อเสียของหินอ่อน หินอ่อนต่างจากหินแกรนิตตรงที่มันไม่ทนต่อรอยขีดข่วน ที่จริงแล้วหินอ่อนเป็นรอยข่วนได้ง่ายมาก และยังเป็นรอยคราบเปื้อนได้ง่ายอีกด้วยหากคุณใช้หินอ่อนในห้องครัว คุณต้องระวังให้มากเพราะมันสามารถเป็นรอยไหม้ได้ ดังนั้น ความร้อนและรอยคราบเปื้อนจึงสามารถทำให้ความสวยงามของหินอ่อนหมดไปได้ สำหรับ ข้อดีของการใช้หินอ่อนนั้น ไม่มีอะไรนอกจากที่ว่ามันสวยงามน่ามอง ความเรียบของหินอ่อนนั้นสวยงาม จนเป็นที่นิยมใช้ในงานแกะสลักที่มีชื่อเสียง ในการเลือกใช้หินทั้งสองชนิดในการตกแต่งบ้านนั้น สามารถเลือกใช้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด มีหลายคนชอบใช้หินเหล่านี้ในห้องครัว เช่น เป็นพื้นบนเคาน์เตอร์และโต๊ะอาหาร หรือโต๊ะในห้องรับแขก บางครั้งอาจใช้เป็นส่วนประกอบของผนังบ้านก็ได้ ห้องน้ำก็เป็นอีกที่ในการใช้หินเหล่านี้ตกแต่ง การใช้หินอ่อน หรือหินแกรนิตจะช่วยเพิ่มความหรูหราและความซับซ้อนให้กับบ้านของคุณ และเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับบ้านของคุณได้อย่างไม่มีขีดจำกัด