การซ่อมแซมพื้นภายในบ้าน หลังน้ำลด

การซ่อมแซมพื้นภายในบ้าน หลังน้ำลด (ตอน พื้นกระเบื้องเซรามิก)

การซ่อมแซมพื้นภายในบ้าน หลังน้ำลด (ตอน พื้นกระเบื้องเซรามิก)      พื้นภายในบ้านส่วนใหญ่ก่อสร้าง โดยใช้แผ่นพื้นสำเร็จวางบนคาน และเททับหน้าหรือปิดผิวด้วยวัสดุที่มีความแตกต่างกันไป เช่น เซรามิค หินอ่อน ปูนขัดมัน ไม้ลามิเนต ไม้จริง ดังนั้นปัญหาที่พบภายหลังน้ำท่วมก็จะแตกต่างกันออกไปตามแต่วัสดุที่ใช้ ดังนั้นเมื่อพื้นบ้านต้องถูกน้ำท่วมสูง หรือโดนแรงดันน้ำจากใต้พื้นสำเร็จรูปจนทำให้ทับหน้าเสียหาย จึงมีวิธีการซ่อมแซ่มดังนี้

การซ่อมแซมพื้นเซรามิคที่ถูกแช่น้ำเป็นเวลานาน

เมื่อพื้นเซรามิคถูกแช่น้ำนาน ๆ จะเกิดพวกคราบสกปรกขึ้นส่วนใหญ่จะมาจากดินโคลน เศษขยะที่ทับถมสนิมเหล็กจนเกิดเป็นรอยคราบน้ำแห้ง ยิ่งกว่านั้นยังสามารถทำให้เกิดการหลุดร่อนของร่องยาแนว หรือกระเบื้องแตกร้าว ชำรุด เสียหายได้ สำหรับการทำความสะอาด และการตรวจสอบความเสียหายในเบื้องต้น หลังจากเก็บข้าวของออกจากพื้นที่หน้างาน และอุปกรณ์ที่เราต้องจัดเตรียมแล้ว อย่างแรก คือ การกวาด และทำความสะอาดขยะทั่วไป จากนั้นเช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาดแล้วใช้พัดลมเป่าพื้นที่ให้แห้ง แล้วตรวจสอบดูว่าพื้นกระเบื้อง หรือร่องยาแนวชำรุดเสียหายตรงไหนบ้าง ถ้าพบว่าเสียหายหลายจุดควรเรียกช่างที่ชำนาญการเข้ามาดู แต่ถ้าเสียหายไม่มากก็สามารถซ่อมแซมเองได้ โดยในการซ่อมแซมพื้นเซรามิค แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ การซ่อมแซมกรณียาแนวหลุดล่อน กับการซ่อมแซมกรณีกระเบื้องหลุดล่อนเสียหาย

การซ่อมแซมกรณียาแนวหลุดล่อน 1. ขูดร่องยาแนวเดิมที่หลุดออก โดยใช้เหล็กขูดร่องยาแนว 2. ล้างทำความสะอาดเศษยาแนว เช็ดด้วยผ้าแห้ง และปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง 3. ผสมยาแนวตามอัตราส่วน (ผสมในแก้ว หรือถ้วยพลาสติกที่ใช้แล้ว) 4. ยาแนวด้วยนิ้ว โดยใช้นิ้วกดให้ยาแนวเต็มร่อง และใช้ปลายนิ้วปาดยาแนวให้เรียบ หลังจากนั้นให้เช็ดทำความสะอาดด้วยฟองน้ำ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 5. นำฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดให้ร่องยาแนวเรียบอีกครั้ง หากเกิดคราบยาแนวหลงเหลือบริเวณผิวหน้า ให้ใช้ผ้าแห้งเช็คทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ

การซ่อมแซมกรณีกระเบื้องหลุดล่อนเสียหาย 1. ใช้สกัดพื้นผิวซีเมนต์ตรงจุดที่กระเบื้องหลุดล่อน โดยสกัดให้เท่ากับความหนาของกระเบื้องและ ความหนาของกาวซีเมนต์ ประมาณ 1.5 เซ็นติเมตร 2. ทำความสะอาดเศษกาวซีเมนต์ที่สกัดออกมา 3. ผสมกาวซีเมนต์โดยใช้เกรียงใบโพธิ์ตักกาวซีเมนต์ ทาบริเวณผิวซีเมนต์ที่สกัดไว้แล้ว 4. นำกระเบื้องที่ลวดลาย และสีเดียวกันกับกระเบื้องแผ่นเก่าที่แตกร้าว มาติดบนกาวซีเมนต์ เคาะให้แน่นด้วยด้ามเกรียงให้ระดับของกระเบื้องเรียบเท่ากับกระเบื้องเดิม โดยต้องจัดให้ร่องยาแนวกระเบื้องเท่ากันทุกด้าน 5. ขูดกาวซีเมนต์ที่หลงเหลืออยู่ในร่องยาแนวออก โดยไม้เกรียง หรือไม้ชิ้นเล็ก ๆ ขูดออก

6. ทิ้งให้แห้งประมาณ 12 ชั่วโมง (โดยห้ามเหยียบกระเบื้อง) 7. ผสม ยาแนวตามอัตราส่วนผสม (ผสมในแก้ว หรือถ้วยพลาสติกที่ใช้แล้ว) ยาแนวด้วยนิ้ว โดยกดให้ยาแนวเต็มร่อง ใช้นิ้วปาดยาแนวให้เรียบ เช็ดทำความสะอาดด้วยฟองน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 8. นำ ฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดให้ร่องยาแนวเรียบอีกครั้ง ในกรณีที่มีตำหนิ รู หรือหลุม ให้ใช้ยาแนวซ้ำตรงที่เกิดตำหนิ แล้วใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด หากมีคราบยาแนวหลงเหลือบริเวณผิวหน้า ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้ง และทิ้งไว้อีก 12 ชั่วโมง ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ      ข้อคิดสำหรับการรับมือกับภัยน้ำท่วมครั้งต่อไป คือการเลือกวัสดุที่มีความทนทานต่อน้ำได้ดี เช่น เซรามิค และหินต่าง ๆ มาไว้ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมขังโดยเฉพาะพื้นชั้นล่าง และควรซื้อมาเก็บสำรองเผื่อการซ่อมแซมด้วย พยายามหลีกเลี่ยงวัสดุประเภทพื้นไม้จริงและไม้ลามิเนต เพราะแม้ไม่เกิดน้ำท่วมก็มีปัญหาเรื่องความชื้น และสีซีดจางเป็นประจำอยู่แล้ว